คุณจะออกเดินทางจาก อินเทอร์ลาเคน ออสต์ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง อินเทอร์ลาเคน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เวเนเซีย ซานตา ลูเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เวนิส.
คุณจะออกเดินทางจาก อินเทอร์ลาเคน ออสต์ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง อินเทอร์ลาเคน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เวเนเซีย ซานตา ลูเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เวนิส.
If you are a travel enthusiast seeking to experience the best of Europe, a breathtaking train journey from Interlaken to Venice is an absolute must! This route offers a mix of stunning landscapes, cultural wonders, and delightful surprises along the way.
The journey begins in Interlaken, a picturesque town nestled in the Swiss Alps. Known for its magnificent mountains and crystal-clear lakes, Interlaken is the perfect starting point for a scenic adventure. Board the train at the Interlaken Ost station, and get ready to embark on an unforgettable ride.
As you travel south, the train passes through several iconic cities and towns. The first stop is Spiez, a charming Swiss town located on the shores of Lake Thun. Here, you can admire the striking Spiez Castle and enjoy a leisurely stroll along the lake promenade.
Continuing your journey, you'll pass through Brig, a historic town known for its medieval fortress and proximity to the Aletsch Glacier, a UNESCO World Heritage site. Further south, the train makes a stop in Domodossola, a charming Italian town known for its scenic beauty and vibrant markets.
As you get closer to Venice, the train passes through beautiful Italian towns such as Verona and Padua. Verona, famous for being the setting of Shakespeare's Romeo and Juliet, offers an enchanting atmosphere with its ancient Roman amphitheater and romantic Juliet's balcony. Padua, on the other hand, boasts stunning architecture, including the impressive Basilica di Sant'Antonio.
After a journey spanning approximately 6 hours, you will arrive at your final destination – Venice! Known as the "Floating City," Venice captivates with its intricate canals, grand palaces, and charming gondolas. From the iconic St. Mark's Square to the enchanting Rialto Bridge, there is so much to explore in this unique city.
Departing from Interlaken and arriving in Venice, you will witness the dramatic change in landscapes, languages, and cultures as you traverse through Switzerland and into Italy. This train journey is not only about the destination but also about the incredible experience of the journey itself.
So, hop aboard the train, witness the diverse beauty of Europe, and create memories that will last a lifetime. The Interlaken to Venice train journey is truly a feast for the senses and a delight for every traveler seeking adventure and discovery.
รถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง เวนิส ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ถึง เวนิส ต้องใช้เวลาประมาณ 7-9 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่เปลี่ยนขบวนและเวลารอรถไฟ.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง เวนิส โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟโดยต้องเปลี่ยนขบวนที่สถานี มิลาน ซึ่งจะใช้เวลาโดยประมาณ 6.5 ชั่วโมง.
รถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง เวนิส ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟโดยสารเฉลี่ยอยู่ระหว่าง €80 ถึง €120 ขึ้นอยู่กับชั้นโดยสารและการจองล่วงหน้า.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง เวนิส หรือไม่?
ไม่ มีรถไฟวิ่งตรงจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง เวนิส; ผู้โดยสารต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟอย่างน้อยหนึ่งครั้ง.
ระยะทางจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง เวนิส โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟระหว่าง อินเทอร์ลาเคน และ เวนิส อยู่ที่ประมาณ 550 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง เวนิส?
รถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ไป เวนิส มักจะหยุดที่ เบิร์น, มิลาน และอาจจะมีการหยุดที่เมืองอื่นๆ ขึ้นอยู่กับเส้นทางของรถไฟที่เลือก.
เยือนอินเทอร์ลาเคนและสัมผัสมนต์ขลังของประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมในเมืองที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงามของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและวัฒนธรรมยุโรป
Harder Kulm: ชมวิวเมืองอินเทอร์ลาเคนและทะเลสาบสองแห่งจากจุดชมวิวที่สูงที่สุด พร้อมร้านอาหารและการเดินทางด้วยกระเช้าไฟฟ้า ราคา €15 ต่อคน เวลาเปิด 10:00-20:30
Schynige Platte: เพลิดเพลินกับการเดินป่าและสวนพฤกษศาสตร์ในบรรยากาศแบบดั้งเดิมของสวิส เปิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟชันเขา
Unterseen: เมืองเก่าแก่ที่มีอาคารไม้สไตล์ชอนชาเล่ ที่พักอาศัยของชาวบ้านที่มีเสน่ห์ และมีคาเฟ่ริมน้ำที่โรแมนติก สำรวจได้ตลอดทั้งปี
พิพิธภัณฑ์ทัวร์บิลลอน: สำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมการทำนาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์ มีการจัดแสดงนาฬิกาที่หลากหลายและเป็นที่น่าสนใจ
Hoheweg: ถนนหลักของเมืองที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาเยืองฟราว จุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและช้อปปิ้ง
St. Beatus Caves: สำรวจถ้ำหินปูนที่มีตำนานโบราณและลักษณะภูมิประเทศที่น่าประทับใจ มีการจัดแสดงและทางเดินที่ได้รับการดูแลอย่างดี
เทศกาลอินเทอร์ลาเคนคลาสสิก: เพลิดเพลินกับเสียงเพลงคลาสสิกในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร มักจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน พบกับนักดนตรีชั้นนำจากทั่วโลก
เดินทางรอบอินเทอร์ลาเคนเป็นประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยความประทับใจจากสถานที่ต่าง ๆ แต่ยังรวมถึงการลิ้มรสอาหารสวิตเซอร์แลนด์แท้ ๆ เช่น ชีสฟอนดูและรอสตี้ที่ไม่ควรพลาด
สำรวจ เวนิส มหัศจรรย์ ดินแดนแห่งคลองและสะพานที่ประกอบด้วยเกาะกว่า 100 แห่งในทะเลอาเดรียติก! เต็มอิ่มด้วยสถาปัตยกรรมแสนงดงามและมรดกทางประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครเทียบได้ พร้อมอาหารตามแบบฉบับท้องถิ่นที่รอคอยให้คุณได้ลิ้มลอง.
พระราชวังดอจส์ (Doge's Palace)
เริ่มต้นที่พระราชวังที่สง่างามที่สุดใน เวนิส ซึ่งเป็นที่ตั้งของผู้ปกครองในอดีต สถาปัตยกรรมโกธิคและภาพวาดที่ทรงคุณค่าคือจุดเด่น ตั้งอยู่ที่ Piazza San Marco ค่าเข้าชม €25 แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงคิวยาว.
สะพาน sighs
สะพานที่เชื่อมระหว่างพระราชวังดอจส์และกุญแจที่ใช้ขังนักโทษ ชื่อของสะพานมาจากเสียงถอนหายใจของนักโทษที่เห็นเวนิสครั้งสุดท้ายก่อนถูกขัง.
มหาวิหารเซนต์มาร์ค (St. Mark's Basilica)
มหาวิหารที่มีความสำคัญ ทางศาสนาและทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ใจกลาง Piazza San Marco ประติมากรรมและมอเสกที่ตระการตา ค่าเข้าชมฟรี แต่ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์เล็กน้อยภายในจะมีค่าใช้จ่าย.
คลองแกรนด์ (Grand Canal)
เส้นทางน้ำ หลักของเวนิสที่เต็มไปด้วยพาเลซโบราณ นั่ง Vaporetto เพื่อชมบ้านเรือนริมน้ำและสะพานที่เก่าแก่.
โรงละครลาเฟนิเช่
โรงละครโอเปร่า เก่าแก่ที่สำคัญของเวนิส ซึ่งเคยจัดการแสดงของหลายนักดนตรีชื่อดัง ตั้งอยู่ที่ Campo San Fantin เยี่ยมชมหรือชมการแสดงสด.
พิพิธภัณฑ์ Peggy Guggenheim
คอลเลกชันศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย ตั้งอยู่ที่ Palazzo Venier dei Leoni หลายงานศิลปะของศิลปินชั้นนำระดับโลก ค่าเข้าชม €15.
สะพานริอัลโต (Rialto Bridge)
สะพาน ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในเวนิส ผู้คนมากมายแวะมาที่นี่เพื่อถ่ายภาพและเพลิดเพลินกับความงามของคลองแกรนด์.
การเดินทางรอบ เวนิส เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร แต่ละมุมของเมืองพร้อมเล่าเรื่องราวผ่านสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งและประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่รู้ลืม ไม่ลืมที่จะลิ้มลอง Cicchetti ของท้องถิ่นกับ Prosecco ขณะที่คุณสำรวจเมืองเดินเรือผ่านคลองมรดกโลก.
สถานีรถไฟหลักในอินเทอร์ลาเคนคืออินเทอร์ลาเคน ออสต์ (Interlaken Ost) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับการเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์และยังเป็นประตูสู่ยูงเฟราที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟอินเทอร์ลาเคน เวสต์ (Interlaken West) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางเมืองและห้างสรรพสินค้าหลักของเมือง
สำหรับอินเทอร์ลาเคน ออสต์ ตั้งอยู่ที่ Untere Bönigstrasse 5, 3800 Interlaken สถานีเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05:45 - 22:30 น. ที่สถานีมีบริการเก็บกระเป๋าซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกรับภาระของกระเป๋าใบหนัก
เวนิส เมืองแห่งคลองที่งดงามและชวนฝันในอิตาลี เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟหลักที่ชื่อว่า สถานีรถไฟ Venezia Santa Lucia ซึ่งเป็นประตูหลักเข้าสู่ใจกลางเมืองเวนิส นอกจากนี้ยังมี สถานีรถไฟ Venezia Mestre ที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ในยุโรป
สถานีรถไฟ Venezia Santa Lucia ตั้งอยู่ที่ Fondamenta Santa Lucia, 30100 เวนิส, อิตาลี นอกเหนือจากบริการรถไฟที่เชื่อมต่อไปยังหลายเส้นทางแล้ว สถานีนี้ยังมีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งเป็นบริการที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวในเมืองโดยไม่ต้องแบกสัมภาระติดตัว วันทำการของสถานีคือทุกวัน 24 ชั่วโมง ยกเว้นเวลาบำรุงรักษาที่อาจมีการประกาศล่วงหน้า
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ