คุณจะออกเดินทางจาก อินเทอร์ลาเคน ออสต์ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง อินเทอร์ลาเคน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มิลาน โซนทราเล ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มิลาน.
คุณจะออกเดินทางจาก อินเทอร์ลาเคน ออสต์ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง อินเทอร์ลาเคน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มิลาน โซนทราเล ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มิลาน.
Are you ready to embark on an unforgettable train journey through the heart of Europe, connecting the picturesque Swiss city of Interlaken with the vibrant Italian metropolis of Milan? This route promises breathtaking scenery and a blend of cultures, making it a must-visit for travelers seeking both natural beauty and urban charm.
Shortest Duration and Key Stations:
For those seeking the quickest journey, the fastest train connection between Interlaken and Milan takes approximately three hours. Starting from Interlaken Ost, the main station in Interlaken, the train will then make stops at Spiez, Brig, and Domodossola before reaching its final destination, Milano Centrale, one of the magnificent railway stations in Italy.
Cities and Towns En Route:
As this route meanders through the enchanting Swiss and Italian Alps, you'll pass by several notable towns and cities. First up is Spiez, a charming town situated on the shores of Lake Thun, offering panoramic views of the Swiss Alps. Brig, known for its historic old town and breathtaking Stockalper Palace, follows. The journey then takes you to Domodossola, a delightful Italian town renowned for its medieval architecture and lively weekly market.
Iconic Items and Landmarks:
Departing from Interlaken, make sure to grab a Swiss chocolate treat, the iconic item that is synonymous with Switzerland. As the train chugs into Milan, keep your eyes peeled for the city's towering Duomo di Milano, an architectural masterpiece and one of the most famous Gothic cathedrals in the world. Milan is also renowned for its fashion scene, making it the perfect place to indulge in some retail therapy.
Completing this train journey is just the start of your adventure in Milan. Immerse yourself in the city's rich history by visiting the La Scala opera house or exploring the grand Sforza Castle. Be sure to sample the local Milanese cuisine, such as the famous risotto alla Milanese or a delectable slice of traditional panettone.
Embrace the idyllic landscapes and cultural delights that lie along the Interlaken-Milan train route. Whether you're in search of stunning natural scenery or fascinating cityscapes, this journey offers an experience that is sure to leave you captivated and inspired. So hop on board and let the train transport you through the remarkable Alpine beauty of Switzerland and Italy.
รถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดคือการใช้บริการของรถไฟ EuroCity (EC) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง.
รถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน มีตั้งแต่ 50€ ถึง 90€ ขึ้นอยู่กับชั้นและโปรโมชั่น.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน หรือไม่?
ใช่ มีรถไฟวิ่งตรงจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน.
ระยะทางจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน คือประมาณ 220 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก อินเทอร์ลาเคน ไปยัง มิลาน?
รถไฟสายนี้อาจจะหยุดที่เมือง Spiez, Domodossola และเมืองอื่นๆ ในเส้นทาง.
เยือนอินเทอร์ลาเคนและสัมผัสมนต์ขลังของประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมในเมืองที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงามของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและวัฒนธรรมยุโรป
Harder Kulm: ชมวิวเมืองอินเทอร์ลาเคนและทะเลสาบสองแห่งจากจุดชมวิวที่สูงที่สุด พร้อมร้านอาหารและการเดินทางด้วยกระเช้าไฟฟ้า ราคา €15 ต่อคน เวลาเปิด 10:00-20:30
Schynige Platte: เพลิดเพลินกับการเดินป่าและสวนพฤกษศาสตร์ในบรรยากาศแบบดั้งเดิมของสวิส เปิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟชันเขา
Unterseen: เมืองเก่าแก่ที่มีอาคารไม้สไตล์ชอนชาเล่ ที่พักอาศัยของชาวบ้านที่มีเสน่ห์ และมีคาเฟ่ริมน้ำที่โรแมนติก สำรวจได้ตลอดทั้งปี
พิพิธภัณฑ์ทัวร์บิลลอน: สำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมการทำนาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์ มีการจัดแสดงนาฬิกาที่หลากหลายและเป็นที่น่าสนใจ
Hoheweg: ถนนหลักของเมืองที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาเยืองฟราว จุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและช้อปปิ้ง
St. Beatus Caves: สำรวจถ้ำหินปูนที่มีตำนานโบราณและลักษณะภูมิประเทศที่น่าประทับใจ มีการจัดแสดงและทางเดินที่ได้รับการดูแลอย่างดี
เทศกาลอินเทอร์ลาเคนคลาสสิก: เพลิดเพลินกับเสียงเพลงคลาสสิกในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร มักจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน พบกับนักดนตรีชั้นนำจากทั่วโลก
เดินทางรอบอินเทอร์ลาเคนเป็นประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยความประทับใจจากสถานที่ต่าง ๆ แต่ยังรวมถึงการลิ้มรสอาหารสวิตเซอร์แลนด์แท้ ๆ เช่น ชีสฟอนดูและรอสตี้ที่ไม่ควรพลาด
เปิดประตูสู่ มิลาน เมืองแห่งแฟชั่นและศิลปะ อิตาลี ที่ผสานความงามของสถาปัตยกรรมโบราณเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว มิลานไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าและแฟชั่น แต่ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายที่รอให้คุณไปค้นหา
มหาวิหารดูโอโม
มหาวิหารดูโอโม หรือ มหาวิหารมิลาน เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ด้วยเสาอากาศที่ซับซ้อนและประติมากรรมที่งดงาม มหาวิหารแห่งนี้เป็นผลงานสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน ค่าเข้าชมประมาณ €3 แต่หากต้องการเข้าชมจุดชมวิว ต้องเพิ่มอีก €9
ปราสาทสฟอร์เซสโก
ปราสาทสฟอร์เซสโก เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงซึ่งก่อสร้างในศตวรรษที่ 15 ตั้งอยู่ในพื้นที่กว้างขวางที่มีสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ ปราสาทนี้เคยเป็นที่ตั้งของตระกูลสฟอร์ซา ค่าเข้าชมฟรี แต่พิพิธภัณฑ์ภายในอาจมีค่าใช้จ่าย
บันไดหินอ่อนวิกตอเรีย แอมานูเอเล่ II
บันไดหินอ่อนวิกตอเรีย แอมานูเอเล II หนฒสนี่เป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งแห่งหนึ่งที่สวยงามที่สุดในโลก ด้วยการตกแต่งภายในที่ประณีตบรรจงและหลังคากระจกที่ทำให้แสงส่องสว่างไสวอย่างงดงาม ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและชมการแสดงของ มิลาน
ลา สกาลา
ลา สกาลา เป็นโรงละครโอเปร่าที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการแสดงโอเปร่า แต่ยังมีคอนเสิร์ตและการแสดงบัลเลท ค่าเข้าชมแต่ละการแสดงขึ้นอยู่กับที่นั่งและรายการแสดง
หอศิลป์ปินาโคเทกา ดิ บรรยารา
หอศิลป์ปินาโคเทกา ดิ บรรยารา ถือเป็นหนึ่งในหอศิลป์ที่สำคัญที่สุดใน อิตาลี มีการแสดงผลงานศิลปะของเลโอนาร์โด ดา วินชี และศิลปินชื่อดังอื่นๆ การเยี่ยมชมที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับผลงานศิลปะชั้นเยี่ยม
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดลเล่ กราซี
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดลเล่ กราซี เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของภาพเขียน "The Last Supper" โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ตั้งอยู่ในอาคารที่มีชื่อเดียวกัน ค่าเข้าชมประมาณ €15 ต้องจองล่วงหน้า
พิพิธภัณฑ์โบสถ์ซาน มัวริซิโอ
พิพิธภัณฑ์โบสถ์ซาน มัวริซิโอ เป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมงานศิลปะศาสนาและประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมือง ตั้งอยู่ในโบสถ์ที่ก่อสร้างในยุคบาโรก ที่นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและศาสนาของ อิตาลี
การเดินทางผ่านเมือง มิลาน นั้นเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ไม่ว่าจะเป็นการชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่งดงาม, ลิ้มลองอาหาร อิตาลี แท้ๆ หรือการเพลิดเพลินกับช้อปปิ้งในบรรยากาศของเมืองแห่งนี้ที่ไม่เหมือนใคร
สถานีรถไฟหลักในอินเทอร์ลาเคนคืออินเทอร์ลาเคน ออสต์ (Interlaken Ost) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับการเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์และยังเป็นประตูสู่ยูงเฟราที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟอินเทอร์ลาเคน เวสต์ (Interlaken West) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางเมืองและห้างสรรพสินค้าหลักของเมือง
สำหรับอินเทอร์ลาเคน ออสต์ ตั้งอยู่ที่ Untere Bönigstrasse 5, 3800 Interlaken สถานีเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05:45 - 22:30 น. ที่สถานีมีบริการเก็บกระเป๋าซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกรับภาระของกระเป๋าใบหนัก
มิลาน เป็นหนึ่งในเมืองหลวงด้านการเดินทางโดยรถไฟใน ยุโรป โดยมี สถานีรถไฟมิลาโน เซ็นทรัล (Milano Centrale) เป็นสถานีหลักที่ใหญ่ที่สุดในเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟสำคัญอื่นๆ เช่น สถานีรถไฟมิลาโน ปอร์ตา การิบัลดี (Milano Porta Garibaldi) และ สถานีรถไฟมิลาโน โรกอเร (Milano Rogoredo) ที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ใน อิตาลี และประเทศใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย
สถานีรถไฟมิลาโน เซ็นทรัล ตั้งอยู่ที่ Piazza Duca d'Aosta, 1, 20124 Milano MI, อิตาลี เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:00 น. ถึง 01:00 น. ณ สถานีนี้ คุณสามารถพบกับบริการเก็บกระเป๋าที่สะดวกสบาย เพื่อเก็บสัมภาระขณะที่คุณไปเที่ยวชมเมืองหรือรอเวลาเดินทางต่อ บริการนี้ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินท่องเที่ยวโดยไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทาง
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ